"งานวิจัยพบว่าการกินช๊อกโกแลตช่วยลดน้ำหนักได้"
คนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันเพื่อหลอกคนทั้งโลกให้เชื่อว่าการกินช๊อกโกแลตจะช่วยให้ลดน้ำหนักได้ และงานวิจัยนี้ก็ถูกนำไปเผยแพร่ต่อในวงกว้างทั้งจากทางสื่อ นิตยสาร และทีวีทั่วโลก ทั้งๆ ที่ทั้ง Johannes Bohannon, Ph.D. และ The Institute of Diet and Health ไม่มีอยู่จริง
รายการสารคดีเยอรมันรายการหนึ่ง ต้องการจะทำสารคดีเกี่ยวกับธุรกิจวงการวิทยาศาสตร์การอาหาร เพื่อจะแสดงให้เห็นว่าเราสามารถนำวิทยาศาสตร์แย่ๆ มาตีพิมพ์และหลอกให้คนเชื่อได้ง่ายแค่ไหน
งานวิจัยนี้เกิดขึ้นจริงๆ กับกลุ่มศึกษาที่ประกอบด้วยชาย 5 คน และหญิง 11 คน โดยแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม กลุ่มหนึ่งรับประทานอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ กลุ่มที่สองรับประทานอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ และ dark chocolate วันละหนึ่งแท่ง กลุ่มที่สามรับประทานอาหารเป็นปรกติ เมื่อเวลาผ่านไปสามอาทิตย์ พบว่ากลุ่มที่ทานช๊อกโกแลต ลดน้ำหนัก และคอเลสเตอรอลได้เร็วกว่ากลุ่มอื่นๆ
ถ้าแบบนั้น หมายความว่าช๊อคโกแลตดีต่อสุขภาพจริงๆ หรือไม่? เปล่าเลย จริงๆ แล้วกลุ่มวิจัยนี้ได้ติดตามค่าต่างๆ ถึง 18 ค่า ตั้งแต่ น้ำหนัก คอเลสเตอรอล โซเดียม โปรตีนในเลือด การนอนหลับ ฯลฯ พูดง่ายๆ ก็คือ ในกลุ่มทดลองที่เล็กขนาดนี้ จะต้องมีค่าอะไรซักค่าที่แจ๊กพ๊อตได้ค่าที่แสดงนัยสำคัญทางสถิติอย่างแน่นอน ไม่ต่างอะไรกับการซื้อหวยหลายๆ ใบ ก็จะต้องมีสักใบที่ถูกรางวัลเป็นอย่างแน่นอน
หลังจากที่การศึกษาเสร็จสิ้นแล้ว กลุ่มนี้จึงได้ทำการตีพิมพ์กับวารสาร และพบว่าหลายๆ วารสารได้ทำการตีพิมพ์โดยไม่ได้มีการตรวจสอบ (peer review) แต่อย่างใด จากนั้นก็มีสำนักข่าวจำนวนมากที่ไปติดกับ และนำข้อมูลนี้ไปตีพิมพ์ โดยไม่เคยตรวจสอบดูว่าจำนวนคนที่นำมาศึกษาในการวิจัยนี้มีมากน้อยเพียงใด
เรื่องนี้สอนอะไรเราได้บ้าง? เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่างานวิจัยทางด้านอาหารและสุขภาพเป็นเรื่องที่ซับซ้อน และบิดเบือนได้ง่าย ทุกวันนี้โลกของเราเต็มไปด้วยข้อมูลที่น่าสับสนมากมายเกี่ยวกับอาหารและสุขภาพ กินอันนี้แล้วดี กินอันนี้แล้วไม่ดี ไขมันไม่ดี ไขมันดี กินเกลือแล้วดี กินเกลือไม่ดี ฯลฯ
และนอกจากนี้เรื่องนี้ยังสอนเราได้ว่าอย่าไปเชื่อข่าว เพียงเพราะสำนักข่าวนำมารายงาน (เพราะนักข่าวก็อ่านแล้วกดแชร์ ไม่ต่างกับเรานั่นแหล่ะ) หรือเป็นงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ และเราควรจะที่ "สงสัย" ข่าวทุกข่าวที่เราบริโภค
ซึ่งข้อดีของวิทยาศาสตร์ก็คือ มันจะไม่มีวันกล่าวหาว่าคุณกำลัง "ลบหลู่" มันอย่างแน่นอน คนทุกคนมีสิทธิที่จะไม่เชื่อ แสดงความเห็นเกี่ยวกับขั้นตอนการวิจัยได้ และงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ก็พร้อมที่จะถูกหักล้างโดยงานวิจัยอันใหม่กว่าอยู่เสมอ